วันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ใบงานที่ 5 เรื่อง โครงงานคอมพิวเตอร์

                     ใบงานที่ 5 เรื่อง โครงงานคอมพิวเตอร์
____________________________________________________________________________

ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้

1.) โครงงานหมายถึง?
ตอบ       -  โครงงาน (Project Approach) คือ กิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ ผู้เรียนได้ทำการศึกษาค้นคว้าและฝึกปฏิบัติด้วยตนเองตามความสามารถ ความถนัด และความสนใจ โดยอาศัยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ หรือกระบวนการอื่นๆ ไปใช้ในการศึกษาหาคำตอบ โดยมีครูผู้สอนคอยกระตุ้นแนะนำและให้คำปรึกษาแก่ผู้เรียนอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่การเลือกหัวข้อที่จะศึกษา ค้นคว้า ดำเนินงานตามแผน กำหนดขั้นตอนการดำเนินงานและการนำเสนอผลงาน ซึ่งอาจทำเป็นบุคคลหรือเป็นกลุ่มโครงงาน คือ การศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือหลายๆสิ่งที่อยากรู้คำตอบให้ลึกซึ้ง
หรือเรียนรู้ในเรื่องนั้นๆให้มากขึ้น โดยใช้กระบวนการ วิธีการที่ศึกษาอย่างมีระบบ เป็นขั้นตอน
มีการวางแผนในการศึกษาอย่างละเอียด ปฏิบัติงานตามแผนที่วางไว้ จนได้ข้อสรุปหรือผลสรุปที่เป็นคำตอบในเรื่องนั้นๆ

อ้างอิง: จิ้มเลยฮะ

2.) โครงงานคอมพิวเตอร์หมายถึง?
ตอบ     - กิจกรรมการเรียนที่นักเีรียนมีอิสระในการเลือกศึกษาปัญหาที่ตนเองสนใจ โดยจะต้องวางแผนการดำเนินงาน ศึกษา พัฒนาโปรแกรม โดยใช้ความรู้ทางกระบวนการวิศวกรรมซอฟต์แวร์ เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนทักษะพื้นฐานในการพัฒนาโครงงาน เรื่องที่นักเรียนสนใจและคิดจะทำโครงงาน ซึ่งอาจมีผู้ศึกษามาก่อน หรือเป็นเรื่องที่นักพัฒนาโปรแกรมได้เคยค้นคว้าและพัฒนาแล้ว นักเรียนสามารถทำโครงงานเรื่องดังกล่าวได้ แต่ต้องคิดดัดแปลงแนวทางในการศึกษา การวิเคราะห์ข้อมูล การพัฒนาโปรแกรม หรือศึกษาเพิ่มเติมจากผลงานเดิมที่มีผู้รายงานไว้ จุดมุ่งหมายสำคัญของการทำโครงงานเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนได้รับประสบการณ์ตรงในการใช้ระบบคอมพิวเตอร์แก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้น หรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ใช้คอมพิวเตอร์ในการพัฒนาสื่อการเรียนรู้เพื่อการศึกษา ประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ พัฒนาโปรแกรมประยุกต์ต่างๆ ตลอดจนการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ เพื่อฝึกให้นักเรียนเป็นบุคคลที่ใฝ่เรียนใฝ่รู้ การพัฒนาความคิดใหม่ๆ ความมีคุณธรรมจริยธรรม เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ให้กับเพื่อนมนุษย์ และอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข

อ้างอิง: จิ้มเลยฮะ

3.) โครงงานคอมพิวเตอร์มีกี่ประเภท?ได้แก่?
ตอบ     - โครงงานมี 5 ประเภท ได้แก่
 1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media)
 2. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ (Tools Development)
 3. โครงงานประเภทจำลองทฤษฎี (Theory Experiment)
 4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน (Application)
 5. โครงงานพัฒนาเกม (Game Development)

อ้างอิง: จิ้มเลยฮะ

4.) นักเรียนคิดว่าเหตุใดจึงต้องทำโครงงานคอมพิวเตอร์?
ตอบ
- ให้นักเรียนได้ศึกษา ค้นคว้า และเรียนรู้ในเรื่องที่นักเรียนสนใจได้ลึกซึ้งกว่าการเรียนในห้องตามปกติ
- ให้นักเรียนมีความสนใจในการเรียนวิชาสาขาคอมพิวเตอร์
- สร้างความสำนึกและความรับผิดชอบในการศึกษาและพัฒนาระบบด้วยตนเอง

อ้างอิง: จิ้มเลยฮะ

5.) ตัวอย่างโครงงานของต่างประเทศ? (คลิปวิดีโอ)
ตอบ   อ้างอิง: จิ้มเลยฮะ

วันอาทิตย์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ใบงานที่ 4 เรื่อง การใช้ IT ในทางที่ไม่ดี

                          
                      ใบงานที่ 4 เรื่อง การใช้ IT ในทางที่ไม่ดี
____________________________________________________________________________


หัวข้อข่าว : ญาติเศร้ารับศพ 2 พ่อลูกไลฟ์สดผูกคอตาย


🔺 เนื้อข่าว : 

- จากกรณีเหตุการณ์สะเทือนขวัญหนุ่มภูเก็ตถ่ายคลิปไลฟ์สดเฟซบุ๊กผูกคอลูกสาววัย 11 เดือน ก่อนผูกคอตัวเองตายตาม บนโรงแรมร้าง ประชดภรรยา โดยญาติทั้ง 2 ฝ่ายได้รับศพ โดยฝ่ายชายถูกนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอิสลาม ส่วนศพลูกสาวญาติภรรยานำประกอบพิธีศาสนาพุทธ

- ญาติของนายวุฒิสรรค์ ว่องทะเล ติดต่อขอรับศพเพื่อนำไปฝังพิธีกรรมทางศาสนาอิสลาม ที่กุโบร์นาใน ในพื้นที่ อ.ถลาง ส่วน นางสาวจิรานุช ไตรรัตน์ พร้อมญาติ เข้ารับศพน้องเบต้า วัย 11 เดือน เพื่อรับศพไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาพุทธ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้าของทั้ง 2 ครอบครัว

- ส่วนสาเหตุครั้งนี้จากการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทราบว่า เกิดจากผู้ตายตบตี ลูกติดภรรยา วัย 5 ขวบ บ่อยครั้งจนมีปากเสียง ทำให้ฝ่ายภรรยากลัวและจะหนีกลับบ้านแม่ของตนเอง ทำให้นายวุฒิสรรค์ กลัวและหวาดระแวง ว่าจะถูกทิ้ง จึงก่อเหตุดังกล่าว

🔺 เห็นด้วย/ไม่เห็นด้วย : 

- ไม่เห็นด้วย เพราะเราคิดว่าการไลฟ์สดไม่ควรมีพฤติกรรมแบบนี้เกิดขึ้น ซึ่งตามหลักการแพทย์แล้วการไลฟ์สดการฆ่าตัวตายผ่านสังคมออนไลน์ เริ่มปรากฏให้เห็นมากขึ้น เฉลี่ยเดือนละ 1-2 ราย ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดการฆ่าตัวตายเลียนแบบ หรือชี้นำให้เกิดการฆ่าตัวตาย ตามด้วยความเข้าใจผิดว่าเป็นทางออกของปัญหา หากพบเห็นภาพเหล่านี้ ต้องรีบยับยั้ง อย่าแชร์ หรือบอกต่อ และไม่ติดตามการถ่ายทอดสด เพราะอาจส่งผลกระทบต่อจิตใจตนเองในอนาคต เช่น เกิดความรู้สึกสะเทือนใจ เก็บไปเป็นความเครียดฝังใจ ครุ่นคิด จนนอนไม่หลับ เป็นภาพติดตาซึ่งไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพจิต

🔺 อ้างอิงจาก : จิ้มเลยฮะ

____________________________________________________________________________


วันอาทิตย์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ใบงานที่ 3 พรบ.คอมพิวเตอร์


ใบงานที่ 3 เรื่อง พรบ.คอมพิวเตอร์ ปี60 
____________________________________________________________________________

  🔺   พรบ.คอมพิวเตอร์คืออะไร? 

พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มีเพื่อกำหนดความผิดในการกระทำที่มีระบบ

คอมพิวเตอร์” เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งระบบคอมพิวเตอร์นี้ เป็นได้ทั้งคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ คอมพิวเตอร์วางตัก

คอมพิวเตอร์พกพา แท็บเล็ต โทรศัพท์มือถือ และสมาร์ทโฟน รวมถึงระบบต่าง ๆ ที่ควบคุมด้วยระบบ

คอมพิวเตอร์ เช่น ระบบควบคุมไฟฟ้า น้ำประปา ธนาคาร ฯลฯ

       เราต่างใช้อุปกรณ์เหล่านี้ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม แน่นอนว่าย่อมมีกลุ่มหรือบุคคลที่ใช้เครื่องมือเหล่านี้

ในการกระทำความผิด หรือกระทำความผิดผ่านระบบเหล่านี้ เช่น ขโมยข้อมูล ป่วนข้อมูลและระบบให้

เสียหาย การกระทำเหล่านี้ถือเป็นเรื่องใหม่ทุกวันนี้คนจำนวนมากใช้อินเทอร์เน็ตเป็นดังห้องสมุดขนาด
ใหญ่

โดยสรุปแล้ว ทุกวันนี้เราเลี่ยงไม่พ้นระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่รอบตัวเรา และนั่นทำให้พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

เป็นกฎหมายที่ใกล้ตัวเรามากเช่นกัน

แหล่งอ้างอิง : จิ้มเลยฮะ



____________________________________________________________________________    

🔺    พรบ.คอมพิวเตอร์ฉบับปี2550 ว่าด้วยเรื่องอะไรบ้าง? 

 1. เข้าระบบคอมพิวเตอร์ที่เจ้าของเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่อนุญาตให้เข้าระบบคอมพิวเตอร์    
     บทลงโทษ… จำคุก 6 เดือน
2. แอบเข้าระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น และนำไปบอกผู้อื่น                                                     
     บทลงโทษ… จำคุกไม่หนึ่งปี
3. แอบเข้าไปล้วงข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บเอาไว้ในระบบคอมพิวเตอร์   
    บทลงโทษ… จำคุกไม่เกิน 2 ปี
4. ข้อมูลที่ถูกส่งให้กันผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบส่วนตัว แล้วไปแอบดักจับข้อมูล          
    บทลงโทษ … จำคุกไม่เกิน 3 ปี
5. แอบเข้าไปแก้ไขข้อมูลของผู้อื่นอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์                                                     
    บทลงโทษ … จำคุกไม่เกิน 5 ปี
6. ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ทำงาน  แต่ถ้ามีการปล่อย packet หรือ message หรือ virus หรือ
    trojan หรือ worm เป็นต้น    เข้าไปก่อกวนจนระบบผู้อื่นเสียหาย                
    บทลงโทษ ....จำคุกไม่เกิน 5 ปี                                                     
7. ถ้ามีการส่งข้อมูลให้ผู้อื่นแต่ผู้นั้นไม่อยากรับ แต่ก็ยังมีการส่ง จนทำให้ผู้รับรำคาญ     
    บทลงโทษ… ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท
8. ถ้ามีการทำผิด ในข้อ 5. กับ ข้อ 6. แล้วทำให้เกิดความพินาศใหญ่โตในระดับรากหญ้า 
 (เช่น เข้าไปแก้ไข ทำลาย ก่อนกวน ระบบสาธารณูปโภค หรือระบบจราจร ที่ควบคุมโดยคอม)
     บทลงโทษ... จำคุกตั้งแต่สิบปีขึ้นไป
9.  ถ้าผู้ใดเขียนโปรแกรม หรือซอร์ฟแวร์ เพื่อให้ช่วยให้ผู้อื่นกระทำความผิดในข้อที่ 1-8           
      บทลงโทษ … จำคุกไม่เกิน1 ปี
10. ถ้ามีการเผยแพร่ภาพลามกอนาจาร ,ว่ากล่าวให้ร้ายผู้อื่น , หรือท้าทายอำนาจรัฐ
       บทลงโทษ… จำคุกไม่เกิน 5 ปี
11. ผู้ใดเป็นเจ้าของเว็บไซด์  แล้วยอมให้เกิดข้อ 10. 
       บทลงโทษ … จำคุกไม่เกิน 5 ปี
12.มีการตัดต่อรูปภาพ และเผยแพร่                                                                          
      บทลงโทษ… จำคุกไม่เกิน 3 ปี
13. ถ้ามีการทำผิดซึ่งเว็บไซต์ซึ่งอยู่เมืองนอกแต่ถ้าคนไทยเป็นเจ้าของ
      ถือว่ามีความผิด                                                                                                                      
14. เมื่อผู้ทำผิดที่ติดต่อเรา แต่บุคคลนั้นอยู่เมืองนอก เราเป็นคนไทย
      สามารถเรียกร้องเอาผิดได้เหมือนกัน
แหล่งอ้างอิง : จิ้มเลยฮะ


___________________________________________________________________________
 🔺 พรบ.คอมพิวเตอร์ฉบับปี2560 ว่าด้วยเรื่องอะไรบ้าง?
1. อัปโหลดรูปลามกอนาจาร โทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท จำคุก 5 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
2. ตั้งตัวเป็นเจ้ากรมข่าวลือ โทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท จำคุก 5 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ

3. ใช้ความสามารถในทางที่ผิด ตัดต่อไม่ว่าจะภาพนิ่งหรือวิดีโอแล้วนำมาเผยแพร่ทำให้เกิดความเสียหาย โทษปรับไม่เกิน 60,000 บาท จำคุก 3 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ

4. แอบเซฟขโมยข้อมูลของบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของตนเอง หากพบจะดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์ รวมทั้งความผิดตามกฎหมายลิขสิทธิ์ และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

5. ใส่ร้ายป้ายสีบุคคลอื่นโดยการใช้เทคโนโลยี โทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท จำคุก 5 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ

6. ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล การแอบเอาไอดีหรือพาสเวิร์ดผู้อื่นไปใช้ โทษทั้งจำทั้งปรับ

7. การแก้ไขหรือลบไฟล์งานของบุคคลอื่นทำให้เกิดความเสียหาย โทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท จำคุก 5 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ

8. การส่งอีเมลลูกโซ่ โทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท

9. การตั้งสำนักข่าวเป็นของตัวเอง เช่น ในไลน์ เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ เป็นขอกดแชร์ไว้ก่อนโดยไม่มีการเช็กข้อเท็จจริง

10. การโพสต์ข้อความใดๆ ที่เป็นการหมิ่นเบื้องสูงหรือทำเว็บไซต์หมิ่นสถาบันมีผลกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ถือเป็นความผิดร้ายแรงทั้งกฎหมายอาญา และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โทษจำคุกสูงสุด 15 ปี

แหล่งอ้างอิง : จิ้มเลยฮะ


____________________________________________________________________________

🔺 Like - Share อย่างไรให้ไม่ผิดพรบ.คอม?

(24 พ.ค.) พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 หรือ ฯ จะประกาศใช้อย่างเป็นทางการ ทีมนิวมีเดีย PPTV จึงไปสอบถามนักกฎหมายมาว่าอะไรบ้างที่เราทำได้ ทำไม่ได้ในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะการกดไลค์ กดแชร์
นายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ นักกฎหมายผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายอิเล็กทรอนิกส์ ในฐานะที่ปรึกษากรรมาธิการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ปี 2560 ระบุว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้ เป็นกฎหมายที่คุ้มครองประชาชนอย่างแท้จริง
โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาการส่งข้อมูลที่ผู้รับไม่ต้องการ หรือที่เรียกว่า สแปม โดยผู้ที่ส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ไปให้ใครก็ตามที่เขาไม่ยินยอม จะต้องมีทางเลือกให้ผู้รับสามารถปฏิเสธข้อมูลนั้นได้ ไม่เช่นนั้นจะมีโทษปรับ 2 แสนบาท เป็นการคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคในการปฏิเสธการรับข่าวสารที่ไม่ต้องการ
สำหรับการ "กดไลค์-กดแชร์" (Like-Share) จะผิดกฎหมายหรือไม่ อย่างไร นายไพบูลย์ ให้คำตอบว่า การกดไลค์ไม่ผิดกฎหมายแต่อย่างใด ยกเว้นแต่การกดไลค์ที่เกี่ยวกับสถาบัน จึงแนะนำว่าไม่ควรกดไลค์เพราะมีความเสี่ยงค่อนข้างสูงในความผิดมาตรา 112
ส่วนการกดแชร์โดยหลักถือเป็นการเผยแพร่ ดังนั้นการที่แชร์ข้อมูลที่มีผลกระทบต่อบุคคลอื่นอาจผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2560 โดยเฉพาะข้อมูลที่กระทบต่อบุคคลที่ 3 จึงแนะนำว่าอย่าแชร์เพราะจะมีผลทางกฎหมาย
ส่วนกรณีพบมีข้อมูลผิดกฎหมายอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ของเรา แต่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าของคอมพิวเตอร์กระทำเอง สามารถแจ้งไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบได้ หากแจ้งแล้วลบข้อมูลออกเจ้าของก็จะไม่มีความผิดตามกฎหมาย เช่น เว็บไซต์ต่าง ๆ รวมไปถึงเฟซบุ๊ก ที่ให้แสดงความคิดเห็น หากพบว่ามีการแสดงความความคิดเห็นผิดกฎหมาย สามารถแจ้งไปที่หน่วยงานที่รับผิดชอบได้ทันที และเมื่อเจ้าของระบบเว็บไซต์ทำการลบข้อความออกจะไม่มีความผิด
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับแก้ไขที่จะบังคับใช้พรุ่งนี้ ซึ่งยังมีอีกหลายประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ ดังนั้นการรู้กฎกติกาการใช้งานไว้ก่อนก็จะช่วยป้องกันไม่ให้เราเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายได้

แหล่งอ้างอิง : จิ้มเลยฮะ


____________________________________________________________________________

อาชีพทางด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ / ไอที

ให้นักเรียนทำการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพทางด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ / ไอที Creative / นักออกแบบ            - เหตุผลท...